“เทพอสูรอสุรินทร์" บางท่านอาจจะยังไม่รู้จักว่าเป็นใคร เทพอสูรอสุรินทร์ คือหนึ่งในเทพประจำดวงดาวนพเคราะห์ลำดับที่ 8 เป็นเทพประจำวันพุทธกลางคืน หรือ ที่เราเรียกว่า "พระราหู" นั่นเอง พระราหูเป็นเทพอสูร ที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจมาก อานุภาพเป็นที่ยำเกรงของทวยเทพเทวาทั้งหลายด้วยไม่อาจต้านทานพลานุภาพของพระองค์ได้ นั้นคือ “พระราหูจอมอสุรินทร์” ซึ่งพระอิศวรเจ้า ได้นำหัวผีโขมด จำนวน 12 หัวมาป่นให้เป็นเถ้าธุลี จากนั้นห่อด้วยผ้าสีดำ เสกเป่าแล้วพรมลงด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดขึ้นเป็นเทพอสูรนามว่า "พระราหู" มีร่างกายใหญ่โตมาก มีท่อนบนเป็นอสูรและมีท่อนล่างเป็นพญานาค มีฤทธิ์ครอบงำได้ทั้ง 3 โลก เป็นที่เกรงกลัวต่อพระสุริยเทพ และ พระจันทราเทพ
พระราหูนั้นมีร่างกายสีดำสัมฤทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์มาก และสามารถควบคุมธาตุน้ำและธาตุลมได้อีกด้วย และยังเป็นเทพที่มีนิสัยนักเลง ไม่เกรงกลัวใคร มีเพื่อนสนิทคือ พระเสาร์ เป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 8 ต่อมาพระราหูได้แอบขโมยน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้ตัวเองเป็นอมตะ มีอิทธิฤทธิ์เหนือเทพเทวดาทั้งหลาย แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้คอยระวังเรื่องนี้ไว้อยู่แล้วแอบรู้เห็นการกระทำของพระราหู จึงได้ทูลต่อพระนารายณ์ เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบเรื่องทรงโกรธมาก และได้คิดว่าพระราหูนั้นอันตรายต่อโลกทั้ง 3 จึงได้ขว้างจักรเข้าตัดร่างกายของพระราหูจนขาดเป็นสองท่อน ทันใดนั้นเอง ตัวพระราหูส่วนที่เป็นท่อนล่างส่วนที่ขาด ได้บังเกิดเป็นเทพยดาขึ้นอีกองค์มีชื่อว่า "พระเกตุ" นั่นเอง และ พระเกตุนั้นยังเป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 9 ด้วย แถมยังอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้พระราหูอีกด้วย มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านการคุ้มครองดวงชะตาของผู้คนทั้งหลายอีกด้วย จานนั้นพระราหูจึงได้โกรธแค้นพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก จึงได้กลืนกินพระอาทิตย์กับพระจันทร์ จากนั้นเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้ทราบเรื่องจึงได้ไปกราบทูลกับพระพุทธเจ้าให้พระพุทธเจ้าช่วยเหลือ
พระอาทิตย์กับพระจันทร์ เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่องจึงได้ไปเข้าช่วย พระองค์ทรงได้สั่งสอนพระธรรมเทศนาแก่พระราหูเมื่อพระราหูได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมไสยจึงได้ตั้งปณิธานว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าและได้บำเพ็ญตนภาวนาตน จนได้ขึ้นเป็นพระโพธิสัตว์ ภายหลังพระราหูมีความตั้งใจอยากจะไปกราบพระพุทธเจ้า แต่ก็ไม่กล้าเนื่องจากพระราหูมีร่างกายที่ใหญ่โตมาก จึงกลัวว่าถ้าไปพบพระพุทธแล้วจะเป็นการไม่ควร เพราะพระราหูนั้นต้องก้มลงคุยกับพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง จึงได้ไปพบพระราหูและเนรมิตรกายปางไสยยาสน์ให้มีกายใหญ่โตมากกว่าพระราหูหลายเท่า เมื่อพระราหูได้พบพระพุทธเจ้าจึงได้กล้มลงกราบ จากนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงพุทธทำนายแก่พระราหู ว่าด้วยความตั้งใจบำเพ็ญเพียรบารมีในทุกๆชาติ ต่อไปในภายภาคหน้า จะได้เป็นพระพุทธเจ้า มีนามว่า "นารทะ" ต่อไป
การบูชาพระราหูนั้น จึงมีอานุภาพส่งผลให้ผู้สักนั้นมีโชคลาภอยู่เสมอ คุ้มครองดวงชะตาให้ไม่ตก เสริมและหนุนดวงชะตา ปัดเป่าความอัปมงคลเคราะห์ร้ายต่างๆให้หมดไป เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาด
** พระคาถา สวดบูชาพระราหูประจำวัน เช้า-ค่ำ **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น