วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระราหูอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ที่นั้นไร้เคราะห์ ไร้ทุกข์ภัย ขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆหมดสิ้น ราหูราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล


“เทพอสูรอสุรินทร์"  บางท่านอาจจะยังไม่รู้จักว่าเป็นใคร  เทพอสูรอสุรินทร์  คือหนึ่งในเทพประจำดวงดาวนพเคราะห์ลำดับที่ 8   เป็นเทพประจำวันพุทธกลางคืน หรือ ที่เราเรียกว่า "พระราหู" นั่นเอง  พระราหูเป็นเทพอสูร  ที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจมาก  อานุภาพเป็นที่ยำเกรงของทวยเทพเทวาทั้งหลายด้วยไม่อาจต้านทานพลานุภาพของพระองค์ได้   นั้นคือ   “พระราหูจอมอสุรินทร์”  ซึ่งพระอิศวรเจ้า  ได้นำหัวผีโขมด  จำนวน 12 หัวมาป่นให้เป็นเถ้าธุลี  จากนั้นห่อด้วยผ้าสีดำ  เสกเป่าแล้วพรมลงด้วยน้ำอมฤต  จึงบังเกิดขึ้นเป็นเทพอสูรนามว่า  "พระราหู"  มีร่างกายใหญ่โตมาก  มีท่อนบนเป็นอสูรและมีท่อนล่างเป็นพญานาค  มีฤทธิ์ครอบงำได้ทั้ง 3 โลก เป็นที่เกรงกลัวต่อพระสุริยเทพ และ พระจันทราเทพ 


พระราหูนั้นมีร่างกายสีดำสัมฤทธิ์  มีอิทธิฤทธิ์มาก  และสามารถควบคุมธาตุน้ำและธาตุลมได้อีกด้วย  และยังเป็นเทพที่มีนิสัยนักเลง  ไม่เกรงกลัวใคร มีเพื่อนสนิทคือ พระเสาร์ เป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 8  ต่อมาพระราหูได้แอบขโมยน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้ตัวเองเป็นอมตะ   มีอิทธิฤทธิ์เหนือเทพเทวดาทั้งหลาย  แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้คอยระวังเรื่องนี้ไว้อยู่แล้วแอบรู้เห็นการกระทำของพระราหู  จึงได้ทูลต่อพระนารายณ์  เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบเรื่องทรงโกรธมาก  และได้คิดว่าพระราหูนั้นอันตรายต่อโลกทั้ง 3  จึงได้ขว้างจักรเข้าตัดร่างกายของพระราหูจนขาดเป็นสองท่อน  ทันใดนั้นเอง  ตัวพระราหูส่วนที่เป็นท่อนล่างส่วนที่ขาด  ได้บังเกิดเป็นเทพยดาขึ้นอีกองค์มีชื่อว่า "พระเกตุ"  นั่นเอง และ  พระเกตุนั้นยังเป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 9 ด้วย  แถมยังอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้พระราหูอีกด้วย  มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านการคุ้มครองดวงชะตาของผู้คนทั้งหลายอีกด้วย  จานนั้นพระราหูจึงได้โกรธแค้นพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก  จึงได้กลืนกินพระอาทิตย์กับพระจันทร์  จากนั้นเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้ทราบเรื่องจึงได้ไปกราบทูลกับพระพุทธเจ้าให้พระพุทธเจ้าช่วยเหลือ 


พระอาทิตย์กับพระจันทร์  เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่องจึงได้ไปเข้าช่วย  พระองค์ทรงได้สั่งสอนพระธรรมเทศนาแก่พระราหูเมื่อพระราหูได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า   จึงเกิดความเลื่อมไสยจึงได้ตั้งปณิธานว่า  จะเป็นพระพุทธเจ้าและได้บำเพ็ญตนภาวนาตน  จนได้ขึ้นเป็นพระโพธิสัตว์  ภายหลังพระราหูมีความตั้งใจอยากจะไปกราบพระพุทธเจ้า  แต่ก็ไม่กล้าเนื่องจากพระราหูมีร่างกายที่ใหญ่โตมาก  จึงกลัวว่าถ้าไปพบพระพุทธแล้วจะเป็นการไม่ควร  เพราะพระราหูนั้นต้องก้มลงคุยกับพระพุทธเจ้า  เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง  จึงได้ไปพบพระราหูและเนรมิตรกายปางไสยยาสน์ให้มีกายใหญ่โตมากกว่าพระราหูหลายเท่า  เมื่อพระราหูได้พบพระพุทธเจ้าจึงได้กล้มลงกราบ  จากนั้น  พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงพุทธทำนายแก่พระราหู  ว่าด้วยความตั้งใจบำเพ็ญเพียรบารมีในทุกๆชาติ  ต่อไปในภายภาคหน้า  จะได้เป็นพระพุทธเจ้า  มีนามว่า "นารทะ" ต่อไป

การบูชาพระราหูนั้น  จึงมีอานุภาพส่งผลให้ผู้สักนั้นมีโชคลาภอยู่เสมอ  คุ้มครองดวงชะตาให้ไม่ตก เสริมและหนุนดวงชะตา  ปัดเป่าความอัปมงคลเคราะห์ร้ายต่างๆให้หมดไป  เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาด 


























**  พระคาถา สวดบูชาพระราหูประจำวัน เช้า-ค่ำ **







วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

" ราหูอมจันทร์ " จันทรคราส คืนวันเพ็ญมาฆะ คราสแรกแห่งปี เดือนแห่งความรัก " ราหูอมจันทร์ " เด่นดีทางเมตตามหานิยม มั่งคั่งร่ำรวย โชคดีมีโชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุตม์ และป้องกันภูตผีปีศาจ



" ราหู กะลาตาเดียว กบกินเดือน" เด่นดีทางเมตตามหานิยม มั่งคั่งร่ำรวย โชคดีมีโชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุตม์ และป้องกันภูตผีปีศาจ
--------------- 
ราหูอมจันทร์ ดีทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุด และป้องกันภูตผีปีศาจ 
ในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้นกล่าวว่า เมื่อบุคคลใดก็ตามถูกพระราหูเสวยอายุแล้ว ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคาระห์ต่าง ๆ เพราะพระหูนั้นเป็นความมืด เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้นจากการเสวยอายุไปก็ยังแผลงฤทธิ์ถีบเท้าจากอีกด้วยจึงกำหนดเอาไว้ว่าเมื่อพระราหูเสวยอายุจักต้องทำพิธีต้อนรับพระราหู หาไม่จะเดือนร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ และสิ่งหนึ่งที่โบราณใช้บรรเทาฤทธิ์พระราหูก็คือกะลาตาเดียว นั่นเอง
---------------- 
พระราหูเป็นเทพที่อมตะหรือไม่ตายเหตุเพราะตอนที่เทพยดาทำพิธีกวนน้ำอมฤตในเกษียรสมุทรนั้น พระราหูซึ่งเป็นอสูรได้แฝงกายเร้นอยู่ในกลุ่มเมฆ ครั้นเมื่อน้ำอมฤตขึ้นจากสะดือทะเลแล้วพระราหูก็ลอบเข้าไปกินน้ำอมฤตพอกลืนล่วงลงลำคอไปพระนารายณ์ก็เล็งฌานเห็นจึงขว้างจักรกลดไปตัดร่างพระราหูขาดกลางตัว น้ำอมฤตแล่นไป ถึงเอวพอดี ส่วนบนจึงกลายเป็นอมตะไม่รู้จักตายส่วนท่อนล่างนั้นพินาศไปในเกษียรสมุทร
---------------- 
โบราณนั้นท่านถือว่าพระราหูจะปรากฎในคราวเกิดจันทรุปราคา เพราะราหูจะกลืนพระจันทร์เอาไว้ทั้งดวงบ้างบางส่วนบ้างต้องตีเกราะเคาะไม้หรือยิงปืนไล่กันเอิกเกริกส่วนวิธีป้องกันพระราหูนั้นก็คือการใช้กะลาจากมะพร้าวตาเดียว หรือไม่มีตามาทำเป็นเครื่องรางเอาไว้จะบรรเทาโทษภัยจากพระราหูไปได้ กะลาตาเดียวนั้นหายาก ในมะพร้าว 1,000 ลูกจะมีก็เพียงแค่ลูกเดียวหรือสองลูก เมื่อได้มาถือว่าเป็นโชคของผู้นั้น
---------------- 
การสร้างเครื่องรางจากกะลาตาเดียวนั้นเป็นศาสตร์ศิลป์ หนึ่งในเบญภาคีเครื่องรางแห่งล้านนา
"ราหูกะลาตาเดียว" คืออีกหนึ่งสุดยอดเครื่องรางด้านหนุนดวง พลิกชะตา ของล้านนา #ราหูกะลาตาเดียวสร้างตามตำราพระราหูทรงฤทธิ์สืบทอดตามตำราโบราณ ครูบาอโนชัย ธรรมจินดามุนี ราชครูแห่งเมืองละกอน(เจ้าคณะเมืองรูปแรกของจังหวัดลำปาง) สังฆะยุคเก่า ผู้เป็นต้นตำรากะลาราหู อาจารย์ผู้ถ่ายทอดตำราวิธีการสร้างกะลาราหูให้กับครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้อันลือลั่น
---------------- 
#สืบทอดตำราโบราณแห่งครูบาอโนชัยทุกประการ ของท่านดีหรือไม่นั้นเอาเป็นว่า ตำราท่านบอกให้เก็บในผอบแก้วผอบทองคำได้เลยทีเดียว
---------------- 
ผู้ใดบูชา "กะลาราหูกบกินเดือน" ท่านว่า..จะได้เป็นใหญ่ เป็นพ่อค้าสำเภาเงิน มีอำนาจ เสน่ห์เมตตาบารมี มียศ มีศักดิ์ หนุนดวงเสริมชะตา เรียกทรัพย์ อำนาจราชศักดิ์ โชคลาภมหาศาลจะไหลหลั่งเข้ามามิขาดเลย



"ราหูกะลาตาเดียว" พระอาจารย์กฤษฎาใช้เวลาในการจัดสร้างกะลาชุดนี้กว่า ๕ ปี จนสร้างออกมาให้ศิษย์ และผู้มีความเชื่อ/ ศรัทธา ได้บูชา ซึ่งต่างคนที่นำไปบูชาแล้วสัมฤทธิ์ผล ใครมีต่างหวงแหนเพราะดั่งมีแก้วสารพัดนึก
......................
เครื่องรางเข้มขลังครบสูตรแห่งตำราโบราณ ในการสร้างกะลาราหูนั้น ท่านจะทำในฤกษ์ยามราหูอมจันทร์ รวมถึงต้องแกะจากกะลาตาเดียวเท่านั้น!! จึงมีจำนวนจัดสร้างแต่ละครั้งไม่มาก เป็นของหายากที่สุด ผู้ที่บูชาไปเห็นผลและมีประสบการณ์ที่ดีกันมากมาย แล้วธุรกิจการงานดีขึ้นจริง...#กะลาตาเดียวพระราหูกบอมเดือน เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางชั้นสุงของล้านนาเลย เป็นที่หวงแหนของคนโบราณอย่างยิ่ง ตำรากล่าวไว้ว่าผู้ใดได้มีไว้บูชากับตนดุจดั่งมีดวงแก้วมณีโชติ แห่งพญาจักรวัตินั้นแล.....



ยันต์สุริยประภา – จันทรประภา
สิทธิการิยะ - จะกล่าวถึงยันต์สุริยประภา ทั้งสองยันต์นี้ เป็นพระยายันต์ที่ประเสริฐกว่ายันต์อื่นใดในโลกถ้าบุคคลผู้ใดปรารถนาสมบัติ พัสดุเงินทอง แก้วแหวนทุกประการ จงให้สร้างพระยันต์นี้ขึ้นมาบูชาเถิด มีตำนานกล่าวมาว่า ในกาลภายภาคหน้าจักมีทุกข์ภัยเวทนาหาสมบัติบ่มิได้ จึงใคร่จะช่วยทุกข์แห่งมนุษย์ทั้งหลาย ฤๅษีตนหนึ่งจึงสร้างพระยันต์ขึ้น ยันต์หนึ่งชื่อ “ยันต์สุริยประภา” อีกตนหนึ่งก็สร้าง “ยันต์จันทรประภา” ขึ้น



ผู้ที่จะทำยันต์ทั้ง 2 นี้ ให้หากะลามะพร้าวตาเดียวเอามาแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์อันหนึ่ง พระราหูอมอาทิตย์อันหนึ่ง จึงให้ลงยันต์สุริยประภาที่พระอาทิตย์ (กุเสโต ฯลฯ) พระยันต์ทั้งสองนี้เป็นของหาค่ามิได้ จะหาสิ่งใดมาเทียบเทียมได้ยากแม้ว่าสมบัติบรมจักรพรรดิ์ก็ดีสมบัติพระอินทร์หรือดวงแก้วมณีโชติ ก็หาอาจเปรียบเทียบพระ-
ยันต์ทั้ง 2 นี้ได้
---------------- 
ผู้ใดที่หวังความเจริญในลาภยศ และอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ก็ให้คิดสร้างขึ้นเถิด เมื่อจะทำพระยันต์นี้ให้แต่งเครื่องบัตรพลี ขวัญข้าว ข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนเท่ากับกำลังพระอาทิตย์ – พระจันทร์ ให้ตกแต่งอาสนะขึ้น 2 ที่ บูชาสักการะด้วยข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาพระอาทิตย์สิ่งละ 6 บูชาพระจันทร์สิ่งละ 15 ให้เลือกเอาวัน ที่มีฤกษ์ดี เช่น วันเพ็ญ วันสุริยคาส วันจันทร์คาสเมื่อจะกระทำนั้นให้ชำระตัวให้บริสุทธิ์สะอาดเสียก่อนแล้วจึงกระทำพิธี
---------------- 
ยันต์สุริยประภา (พระอาทิตย์) และยันต์จันทรประภา (พระจันทร์) ทั้งสองนี้เวลากลางวันให้บูชาและปลุกเสกยันต์สุริยประภา เวลากลางคืนให้บูชาและปลุกเสกยันต์จันทรประภา เมื่อกระทำแล้วให้เสกด้วยคาถาใส่ในตลับทอง เอายันต์จันทรประภาใส่ตลับเงิน ให้จุนเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอม แล้วบูชาไว้เมื่อจะใช้ให้ตามอุปเท่ห์ ดัง- กล่าวนี้
---------------- 
ถ้าหากท้าวพระยาเจ้านายท่านโกรธให้เอายันต์สุริยประภานั้น จุ่มเจิมด้วยเครื่องหอม ท่องคาถาสุริยประภา3 ครั้ง จึงนำเอาติดตัวไป ท่านเห็นหน้าเข้าหายโกรธเคืองสิ้น ถ้าบริวารข้าคนหลบหนีไปให้เขียนชื่อผู้หลบหนีไปนั้นใส่กระดาษ แล้วอายันต์จันทรประภาทับเสกด้วยคาถาจันทรประภาผู้นั้นจะกลับคืนมา ถ้าจะปลูกพืชผลให้เจริญงอกงามทุกชนิด ให้เอายันต์จันทรประภามาเสกด้วยคาถาจันทรประภา แล้วให้สวดมนต์บทนี้อีกบทหนึ่งคือ
----------------
โอมเขยยะสัมปัตติ มหาเขตยะสัมปัตติ เชยยันติโอมทุเร ทุเร สวาหะ เลิกมัตตะ สวาหะฯ 7 ครั้ง แล้วทำใจให้ดี อธิษฐานเอาเถิดให้ผลงอกงามเจริญดี ยันต์สุริยประภาและจันทรประภาทั้ง 2 ยันต์นี้ใช้ได้ 108 ประการแล ผู้คนก็เคารพยำเกรงหูตาก็แจ่มแจ้งอายุก็ยืน ผมก็มิหงอก ท่านให้เอายันต์จันทรประภานั้นแช่น้ำมันหอม เอาน้ำมันนั้นทาผม ไปหาเจ้านายท่านเอาน้ำมันนั้นหุงขี้ผึ้งสีปาก เอาขี้ผึ้งนั้นทาสีปากเสกด้วยคาถาจันทรประภา ไปหาเจ้าคนนายคน ท่านเมตตาเรา
----------------
บุคคลผู้ใดปรารถนาวัตถุสิ่งไรก้ดีให้เอายันต์จันทรประภาใส่อับเงิน และเอายันต์สุริยประภาใส่อับทองคำบูชาทุกวันให้เอาขันเงินขันทองคำใส่เครื่องบูชายันต์ทั้งสองนี้ แม้ปรารถนาอันใดก็จะได้ดังใจต้องการทุกอัน และบำเพ็ญไปเถิดอย่าได้ขาด อย่าประมาทเลย พระยันต์ทั้งสองนี้ผู้ใดนับถือบูชาไว้ มิรู้อดอดยากตกทุกข์ได้ยากเลย ให้บูชานับถือประดุจสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด
--------------------------
- คาถาบูชาราหู -
ตั้งนะโม ๓ จบ

“เนนทะมันเต อัสสะ กัสสะ 
มัสสะลิจิระสานัง มาบัง 
กะชะลินิสัวละ สัวติ มะวิ 
มะขะก๊ะ พินิรัมป๊ะ ถะสัวละสัวติ
ยะถาตัง ยะมะมะ ตังวะวะ 
มะมะตัง ตัง เสกา 
มะมะกาติ ยะนานิ” 
--------------------------
วันจันทร์ สวด ๒ คาบ 
อังคาร ๓ คาบ 
พุธ ๔ คาบ 
พฤหัสบดี ๕ คาบ 
ศุกร์ ๖ คาบ 
เสาร์ ๗ คาบ 
อาทิตย์ ๑ คาบ 
--------------------------
ธูปแปดดอก ดอกไม้ ขาวและ หรือ แดง 
หลังจากสวดเสร็จก็อธิฐานเอาตามปรารถนา....