วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

กะลาตาเดียวพระราหูกบกินเดือน เนื้อกะลาตาเดียว สุดยอดเครื่องรางด้านหนุนดวง พลิกชะตา ของล้านนา



กะลาตาเดียวพระราหูกบกินเดือน 
เนื้อกะลาตาเดียว ลงรักปิดทองร่องชาด 
- พระอาจารย์กฤษฎา -

"#ราหูกะลาตาเดียว" คืออีกหนึ่งสุดยอดเครื่องรางด้านหนุนดวง พลิกชะตา ของล้านนา #ราหูกะลาตาเดียวสร้างตามตำราพระราหูทรงฤทธิ์สืบทอดตามตำราโบราณ ครูบาอโนชัย ธรรมจินดามุนี ราชครูแห่งเมืองละกอน(เจ้าคณะเมืองรูปแรกของจังหวัดลำปาง) สังฆะยุคเก่า ผู้เป็นต้นตำรากะลาราหู อาจารย์ผู้ถ่ายทอดตำราวิธีการสร้างกะลาราหูให้กับครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้อันลือลั่น



......................
#สืบทอดตำราโบราณแห่งครูบาอโนชัยทุกประการ ของท่านดีหรือไม่นั้นเอาเป็นว่า ตำราท่านบอกให้เก็บในผอบแก้วผอบทองคำได้เลยทีเดียว 
......................
ผู้ใดบูชา "#กะลาราหูกบกินเดือน" ท่านว่า..จะได้เป็นใหญ่ เป็นพ่อค้าสำเภาเงิน มีอำนาจ เสน่ห์เมตตาบารมี มียศ มีศักดิ์ หนุนดวงเสริมชะตา เรียกทรัพย์ อำนาจราชศักดิ์ โชคลาภมหาศาลจะไหลหลั่งเข้ามามิขาดเลย 
......................
"#ราหูกะลาตาเดียว" พระอาจารย์กฤษฎาใช้เวลาในการจัดสร้างกะลาชุดนี้กว่า ๕ ปี จนสร้างออกมาให้ศิษย์ และผู้มีความเชื่อ/ ศรัทธา ได้บูชา ซึ่งต่างคนที่นำไปบูชาแล้วสัมฤทธิ์ผล ใครมีต่างหวงแหนเพราะดั่งมีแก้วสารพัดนึก.
......................
#เครื่องรางเข้มขลังครบสูตรแห่งตำราโบราณ ในการสร้างกะลาราหู นั้น ท่านจะทำในฤกษ์ยามราหูอมจันทร์ รวมถึงต้องแกะจากกะลาตาเดียวเท่านั้น!! จึงมีจำนวนจัดสร้างแต่ละครั้งไม่มาก เป็นของหายากที่สุด ผู้ที่บูชาไปเห็นผลและมีประสบการณ์ที่ดีกันมากมาย แล้วธุรกิจการงานดีขึ้นจริง...#กะลาตาเดียวพระราหูกบกินเดือน เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางชั้นสุงของล้านนาเลย เป็นที่หวงแหนของคนโบราณอย่างยิ่ง ตำรากล่าวไว้ว่าผู้ใดได้มีไว้บูชากับตนดุจดั่งมีดวงแก้วมณีโชติ แห่งพญาจักรวัตินั้นแล.....





#ของดีบารมีแสนโกฎิใครมีไว้เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน 

#สิปปะคุณมนต์ยันต์อักขระเครื่องรางล้านนา



ผู้ใดรับราหู บูชาราหู จะพลิกชะตาชีวิตจากที่ร้ายๆให้กลับกลายเป็นดีสุดๆ 
ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จะเพิ่มกำลังชีวิต หนุนดวงให้ร่ำรวย มีสง่าราศี 
จะเป็นเมตตามหานิยม ให้แก่ผู้มีไว้ในครอบครอง 
จะคุ้มครองดวงให้แคล้วคลาดจากสิ่งร้ายทั้งปวง รับพลังดี 
บันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้อย่างคิดไม่ถึง !!!

สำหรับท่านที่มีไว้ในครอบครองแล้ว ขอบอกจากใจว่า อย่าเก็บไว้
อย่างเดียว นำออกมาภาวนาจิต ขอในสิ่งที่ท่านหวัง ลองดู!
จะสัมฤทธิ์ในผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ!!!

เทพราหูหนุนดวงบันดาลโชคโภคทรัพย์
เทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตบูชาแล้วรวย
พระราหูมีพลังมากให้ผลมาก
ทรงอานุภาพสูงเด่น ช่วยให้เจ้าชะตารุ่งเรือง
กลับร้ายกลายเป็นดี
พระราหูช่วยให้เกิดลาภสักการะ
โภคผลทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง
ความก้าวหน้า ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง
การค้าขายดีมีเงินไหลมาเทมา

บูชาเทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิต
ทับอาทิตย์มหาจักรพระจันทร์เสี้ยวช้อนรับค้ำถ่อ
เปลี่ยนดวงร้ายให้เป็นดวงดี หนุนดวงดียิ่งดียิ่งๆขึ้นไป
กลับร้ายให้กลายเป็นดีแบบทวีคูณ
เปลี่ยนเคราะห์ ทุกข์โศกเป็นพรมหามงคล

พระราหูมีพลังมาก มีอานุภาพสูงเด่น
เป็นราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล
คุ้มดวงให้แคล้วคลาดปลอดภัย
พลิกดวงร้ายให้เป็นดวงดี
ดลบันดาลลาภสักการะ
ความมั่งคั่งร่ำรวย โภคทรัพย์ มหาสมบัติ
ใครับพระราหูไปแล้วถือถูกใช้ขึ้น
จะพลิกชีวิตเปลี่ยนโชคชะตา
เปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดี ดีแบบทวีคูณ 





พระราหูมีพลังมาก มีอานุภาพสูงเด่น เป็นราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล 
แม้พระอาทิตย์ที่ทรงฤทธิ์ ก็ยังต้องพ่ายแพ้พระราหู 
เทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตบูชาแล้วรวย!!! 
พระราหูมีพลังมากให้ผลมาก ทรงอานุภาพสูงเด่น ช่วยให้เจ้าชะตารุ่งเรือง 
กลับร้ายกลายเป็นดี พระราหูช่วยให้เกิดลาภสักการะ 
โภคผลทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า 
ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง การค้าขายดีมีเงินไหลมาเทมา 
บูชาเทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตทับอาทิตย์มหาจักร 
พระจันทร์เสี้ยวช้อนรับค้ำถ่อ เปลี่ยนดวงร้ายให้เป็นดวงดี 
หนุนดวงดียิ่งดียิ่งๆขึ้นไป เปลี่ยนเคราะห์ ทุกข์โศกเป็นพร มหามงคล 
พระราหูอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ที่นั้นไร้เคราะห์ ไร้ทุกข์ภัย 
ขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆหมดสิ้น ราหูราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล 
แม้พระอาทิตย์ที่ทรงฤทธิ์ก็ยังต้องพ่ายแพ้พระราหู ... 
ในทางดาราศาสตร์ ราหู คือจุดตัดของวงโครจร ของพระจันทร์กับวงโครจรของโลก
 แต่ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูเป็นดาวบาปเคราะห์ 
ที่พระอิศวรทรงสร้างจาก หัวผีโขมดสิบสองหัว 
ให้ผลทางด้านลุ่มหลงมัวเมา ใจร้อน ออกแนวลุยๆ กล้าได้กล้าเสีย 
ไปได้ทุกที่ พระราหูมีฤทธิ์เยอะมาก ชนะดาวทุกดวง พระอาทิตย์ 

ที่ทรงฤทธิ์ก็ยังเสร็จพระราหู ราหูแพ้อยู่ดวงเดียวคือ-พระพฤหัส- 


วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระราหูอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ที่นั้นไร้เคราะห์ ไร้ทุกข์ภัย ขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆหมดสิ้น ราหูราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล


“เทพอสูรอสุรินทร์"  บางท่านอาจจะยังไม่รู้จักว่าเป็นใคร  เทพอสูรอสุรินทร์  คือหนึ่งในเทพประจำดวงดาวนพเคราะห์ลำดับที่ 8   เป็นเทพประจำวันพุทธกลางคืน หรือ ที่เราเรียกว่า "พระราหู" นั่นเอง  พระราหูเป็นเทพอสูร  ที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจมาก  อานุภาพเป็นที่ยำเกรงของทวยเทพเทวาทั้งหลายด้วยไม่อาจต้านทานพลานุภาพของพระองค์ได้   นั้นคือ   “พระราหูจอมอสุรินทร์”  ซึ่งพระอิศวรเจ้า  ได้นำหัวผีโขมด  จำนวน 12 หัวมาป่นให้เป็นเถ้าธุลี  จากนั้นห่อด้วยผ้าสีดำ  เสกเป่าแล้วพรมลงด้วยน้ำอมฤต  จึงบังเกิดขึ้นเป็นเทพอสูรนามว่า  "พระราหู"  มีร่างกายใหญ่โตมาก  มีท่อนบนเป็นอสูรและมีท่อนล่างเป็นพญานาค  มีฤทธิ์ครอบงำได้ทั้ง 3 โลก เป็นที่เกรงกลัวต่อพระสุริยเทพ และ พระจันทราเทพ 


พระราหูนั้นมีร่างกายสีดำสัมฤทธิ์  มีอิทธิฤทธิ์มาก  และสามารถควบคุมธาตุน้ำและธาตุลมได้อีกด้วย  และยังเป็นเทพที่มีนิสัยนักเลง  ไม่เกรงกลัวใคร มีเพื่อนสนิทคือ พระเสาร์ เป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 8  ต่อมาพระราหูได้แอบขโมยน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้ตัวเองเป็นอมตะ   มีอิทธิฤทธิ์เหนือเทพเทวดาทั้งหลาย  แต่พระอาทิตย์และพระจันทร์ได้คอยระวังเรื่องนี้ไว้อยู่แล้วแอบรู้เห็นการกระทำของพระราหู  จึงได้ทูลต่อพระนารายณ์  เมื่อพระนารายณ์ทรงทราบเรื่องทรงโกรธมาก  และได้คิดว่าพระราหูนั้นอันตรายต่อโลกทั้ง 3  จึงได้ขว้างจักรเข้าตัดร่างกายของพระราหูจนขาดเป็นสองท่อน  ทันใดนั้นเอง  ตัวพระราหูส่วนที่เป็นท่อนล่างส่วนที่ขาด  ได้บังเกิดเป็นเทพยดาขึ้นอีกองค์มีชื่อว่า "พระเกตุ"  นั่นเอง และ  พระเกตุนั้นยังเป็นเทพนพเคราะห์ในลำดับที่ 9 ด้วย  แถมยังอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้พระราหูอีกด้วย  มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านการคุ้มครองดวงชะตาของผู้คนทั้งหลายอีกด้วย  จานนั้นพระราหูจึงได้โกรธแค้นพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก  จึงได้กลืนกินพระอาทิตย์กับพระจันทร์  จากนั้นเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้ทราบเรื่องจึงได้ไปกราบทูลกับพระพุทธเจ้าให้พระพุทธเจ้าช่วยเหลือ 


พระอาทิตย์กับพระจันทร์  เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่องจึงได้ไปเข้าช่วย  พระองค์ทรงได้สั่งสอนพระธรรมเทศนาแก่พระราหูเมื่อพระราหูได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า   จึงเกิดความเลื่อมไสยจึงได้ตั้งปณิธานว่า  จะเป็นพระพุทธเจ้าและได้บำเพ็ญตนภาวนาตน  จนได้ขึ้นเป็นพระโพธิสัตว์  ภายหลังพระราหูมีความตั้งใจอยากจะไปกราบพระพุทธเจ้า  แต่ก็ไม่กล้าเนื่องจากพระราหูมีร่างกายที่ใหญ่โตมาก  จึงกลัวว่าถ้าไปพบพระพุทธแล้วจะเป็นการไม่ควร  เพราะพระราหูนั้นต้องก้มลงคุยกับพระพุทธเจ้า  เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่อง  จึงได้ไปพบพระราหูและเนรมิตรกายปางไสยยาสน์ให้มีกายใหญ่โตมากกว่าพระราหูหลายเท่า  เมื่อพระราหูได้พบพระพุทธเจ้าจึงได้กล้มลงกราบ  จากนั้น  พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงพุทธทำนายแก่พระราหู  ว่าด้วยความตั้งใจบำเพ็ญเพียรบารมีในทุกๆชาติ  ต่อไปในภายภาคหน้า  จะได้เป็นพระพุทธเจ้า  มีนามว่า "นารทะ" ต่อไป

การบูชาพระราหูนั้น  จึงมีอานุภาพส่งผลให้ผู้สักนั้นมีโชคลาภอยู่เสมอ  คุ้มครองดวงชะตาให้ไม่ตก เสริมและหนุนดวงชะตา  ปัดเป่าความอัปมงคลเคราะห์ร้ายต่างๆให้หมดไป  เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาด 


























**  พระคาถา สวดบูชาพระราหูประจำวัน เช้า-ค่ำ **







วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

" ราหูอมจันทร์ " จันทรคราส คืนวันเพ็ญมาฆะ คราสแรกแห่งปี เดือนแห่งความรัก " ราหูอมจันทร์ " เด่นดีทางเมตตามหานิยม มั่งคั่งร่ำรวย โชคดีมีโชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุตม์ และป้องกันภูตผีปีศาจ



" ราหู กะลาตาเดียว กบกินเดือน" เด่นดีทางเมตตามหานิยม มั่งคั่งร่ำรวย โชคดีมีโชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุตม์ และป้องกันภูตผีปีศาจ
--------------- 
ราหูอมจันทร์ ดีทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุด และป้องกันภูตผีปีศาจ 
ในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้นกล่าวว่า เมื่อบุคคลใดก็ตามถูกพระราหูเสวยอายุแล้ว ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคาระห์ต่าง ๆ เพราะพระหูนั้นเป็นความมืด เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้นจากการเสวยอายุไปก็ยังแผลงฤทธิ์ถีบเท้าจากอีกด้วยจึงกำหนดเอาไว้ว่าเมื่อพระราหูเสวยอายุจักต้องทำพิธีต้อนรับพระราหู หาไม่จะเดือนร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ และสิ่งหนึ่งที่โบราณใช้บรรเทาฤทธิ์พระราหูก็คือกะลาตาเดียว นั่นเอง
---------------- 
พระราหูเป็นเทพที่อมตะหรือไม่ตายเหตุเพราะตอนที่เทพยดาทำพิธีกวนน้ำอมฤตในเกษียรสมุทรนั้น พระราหูซึ่งเป็นอสูรได้แฝงกายเร้นอยู่ในกลุ่มเมฆ ครั้นเมื่อน้ำอมฤตขึ้นจากสะดือทะเลแล้วพระราหูก็ลอบเข้าไปกินน้ำอมฤตพอกลืนล่วงลงลำคอไปพระนารายณ์ก็เล็งฌานเห็นจึงขว้างจักรกลดไปตัดร่างพระราหูขาดกลางตัว น้ำอมฤตแล่นไป ถึงเอวพอดี ส่วนบนจึงกลายเป็นอมตะไม่รู้จักตายส่วนท่อนล่างนั้นพินาศไปในเกษียรสมุทร
---------------- 
โบราณนั้นท่านถือว่าพระราหูจะปรากฎในคราวเกิดจันทรุปราคา เพราะราหูจะกลืนพระจันทร์เอาไว้ทั้งดวงบ้างบางส่วนบ้างต้องตีเกราะเคาะไม้หรือยิงปืนไล่กันเอิกเกริกส่วนวิธีป้องกันพระราหูนั้นก็คือการใช้กะลาจากมะพร้าวตาเดียว หรือไม่มีตามาทำเป็นเครื่องรางเอาไว้จะบรรเทาโทษภัยจากพระราหูไปได้ กะลาตาเดียวนั้นหายาก ในมะพร้าว 1,000 ลูกจะมีก็เพียงแค่ลูกเดียวหรือสองลูก เมื่อได้มาถือว่าเป็นโชคของผู้นั้น
---------------- 
การสร้างเครื่องรางจากกะลาตาเดียวนั้นเป็นศาสตร์ศิลป์ หนึ่งในเบญภาคีเครื่องรางแห่งล้านนา
"ราหูกะลาตาเดียว" คืออีกหนึ่งสุดยอดเครื่องรางด้านหนุนดวง พลิกชะตา ของล้านนา #ราหูกะลาตาเดียวสร้างตามตำราพระราหูทรงฤทธิ์สืบทอดตามตำราโบราณ ครูบาอโนชัย ธรรมจินดามุนี ราชครูแห่งเมืองละกอน(เจ้าคณะเมืองรูปแรกของจังหวัดลำปาง) สังฆะยุคเก่า ผู้เป็นต้นตำรากะลาราหู อาจารย์ผู้ถ่ายทอดตำราวิธีการสร้างกะลาราหูให้กับครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้อันลือลั่น
---------------- 
#สืบทอดตำราโบราณแห่งครูบาอโนชัยทุกประการ ของท่านดีหรือไม่นั้นเอาเป็นว่า ตำราท่านบอกให้เก็บในผอบแก้วผอบทองคำได้เลยทีเดียว
---------------- 
ผู้ใดบูชา "กะลาราหูกบกินเดือน" ท่านว่า..จะได้เป็นใหญ่ เป็นพ่อค้าสำเภาเงิน มีอำนาจ เสน่ห์เมตตาบารมี มียศ มีศักดิ์ หนุนดวงเสริมชะตา เรียกทรัพย์ อำนาจราชศักดิ์ โชคลาภมหาศาลจะไหลหลั่งเข้ามามิขาดเลย



"ราหูกะลาตาเดียว" พระอาจารย์กฤษฎาใช้เวลาในการจัดสร้างกะลาชุดนี้กว่า ๕ ปี จนสร้างออกมาให้ศิษย์ และผู้มีความเชื่อ/ ศรัทธา ได้บูชา ซึ่งต่างคนที่นำไปบูชาแล้วสัมฤทธิ์ผล ใครมีต่างหวงแหนเพราะดั่งมีแก้วสารพัดนึก
......................
เครื่องรางเข้มขลังครบสูตรแห่งตำราโบราณ ในการสร้างกะลาราหูนั้น ท่านจะทำในฤกษ์ยามราหูอมจันทร์ รวมถึงต้องแกะจากกะลาตาเดียวเท่านั้น!! จึงมีจำนวนจัดสร้างแต่ละครั้งไม่มาก เป็นของหายากที่สุด ผู้ที่บูชาไปเห็นผลและมีประสบการณ์ที่ดีกันมากมาย แล้วธุรกิจการงานดีขึ้นจริง...#กะลาตาเดียวพระราหูกบอมเดือน เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางชั้นสุงของล้านนาเลย เป็นที่หวงแหนของคนโบราณอย่างยิ่ง ตำรากล่าวไว้ว่าผู้ใดได้มีไว้บูชากับตนดุจดั่งมีดวงแก้วมณีโชติ แห่งพญาจักรวัตินั้นแล.....



ยันต์สุริยประภา – จันทรประภา
สิทธิการิยะ - จะกล่าวถึงยันต์สุริยประภา ทั้งสองยันต์นี้ เป็นพระยายันต์ที่ประเสริฐกว่ายันต์อื่นใดในโลกถ้าบุคคลผู้ใดปรารถนาสมบัติ พัสดุเงินทอง แก้วแหวนทุกประการ จงให้สร้างพระยันต์นี้ขึ้นมาบูชาเถิด มีตำนานกล่าวมาว่า ในกาลภายภาคหน้าจักมีทุกข์ภัยเวทนาหาสมบัติบ่มิได้ จึงใคร่จะช่วยทุกข์แห่งมนุษย์ทั้งหลาย ฤๅษีตนหนึ่งจึงสร้างพระยันต์ขึ้น ยันต์หนึ่งชื่อ “ยันต์สุริยประภา” อีกตนหนึ่งก็สร้าง “ยันต์จันทรประภา” ขึ้น



ผู้ที่จะทำยันต์ทั้ง 2 นี้ ให้หากะลามะพร้าวตาเดียวเอามาแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์อันหนึ่ง พระราหูอมอาทิตย์อันหนึ่ง จึงให้ลงยันต์สุริยประภาที่พระอาทิตย์ (กุเสโต ฯลฯ) พระยันต์ทั้งสองนี้เป็นของหาค่ามิได้ จะหาสิ่งใดมาเทียบเทียมได้ยากแม้ว่าสมบัติบรมจักรพรรดิ์ก็ดีสมบัติพระอินทร์หรือดวงแก้วมณีโชติ ก็หาอาจเปรียบเทียบพระ-
ยันต์ทั้ง 2 นี้ได้
---------------- 
ผู้ใดที่หวังความเจริญในลาภยศ และอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง ก็ให้คิดสร้างขึ้นเถิด เมื่อจะทำพระยันต์นี้ให้แต่งเครื่องบัตรพลี ขวัญข้าว ข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนเท่ากับกำลังพระอาทิตย์ – พระจันทร์ ให้ตกแต่งอาสนะขึ้น 2 ที่ บูชาสักการะด้วยข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาพระอาทิตย์สิ่งละ 6 บูชาพระจันทร์สิ่งละ 15 ให้เลือกเอาวัน ที่มีฤกษ์ดี เช่น วันเพ็ญ วันสุริยคาส วันจันทร์คาสเมื่อจะกระทำนั้นให้ชำระตัวให้บริสุทธิ์สะอาดเสียก่อนแล้วจึงกระทำพิธี
---------------- 
ยันต์สุริยประภา (พระอาทิตย์) และยันต์จันทรประภา (พระจันทร์) ทั้งสองนี้เวลากลางวันให้บูชาและปลุกเสกยันต์สุริยประภา เวลากลางคืนให้บูชาและปลุกเสกยันต์จันทรประภา เมื่อกระทำแล้วให้เสกด้วยคาถาใส่ในตลับทอง เอายันต์จันทรประภาใส่ตลับเงิน ให้จุนเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอม แล้วบูชาไว้เมื่อจะใช้ให้ตามอุปเท่ห์ ดัง- กล่าวนี้
---------------- 
ถ้าหากท้าวพระยาเจ้านายท่านโกรธให้เอายันต์สุริยประภานั้น จุ่มเจิมด้วยเครื่องหอม ท่องคาถาสุริยประภา3 ครั้ง จึงนำเอาติดตัวไป ท่านเห็นหน้าเข้าหายโกรธเคืองสิ้น ถ้าบริวารข้าคนหลบหนีไปให้เขียนชื่อผู้หลบหนีไปนั้นใส่กระดาษ แล้วอายันต์จันทรประภาทับเสกด้วยคาถาจันทรประภาผู้นั้นจะกลับคืนมา ถ้าจะปลูกพืชผลให้เจริญงอกงามทุกชนิด ให้เอายันต์จันทรประภามาเสกด้วยคาถาจันทรประภา แล้วให้สวดมนต์บทนี้อีกบทหนึ่งคือ
----------------
โอมเขยยะสัมปัตติ มหาเขตยะสัมปัตติ เชยยันติโอมทุเร ทุเร สวาหะ เลิกมัตตะ สวาหะฯ 7 ครั้ง แล้วทำใจให้ดี อธิษฐานเอาเถิดให้ผลงอกงามเจริญดี ยันต์สุริยประภาและจันทรประภาทั้ง 2 ยันต์นี้ใช้ได้ 108 ประการแล ผู้คนก็เคารพยำเกรงหูตาก็แจ่มแจ้งอายุก็ยืน ผมก็มิหงอก ท่านให้เอายันต์จันทรประภานั้นแช่น้ำมันหอม เอาน้ำมันนั้นทาผม ไปหาเจ้านายท่านเอาน้ำมันนั้นหุงขี้ผึ้งสีปาก เอาขี้ผึ้งนั้นทาสีปากเสกด้วยคาถาจันทรประภา ไปหาเจ้าคนนายคน ท่านเมตตาเรา
----------------
บุคคลผู้ใดปรารถนาวัตถุสิ่งไรก้ดีให้เอายันต์จันทรประภาใส่อับเงิน และเอายันต์สุริยประภาใส่อับทองคำบูชาทุกวันให้เอาขันเงินขันทองคำใส่เครื่องบูชายันต์ทั้งสองนี้ แม้ปรารถนาอันใดก็จะได้ดังใจต้องการทุกอัน และบำเพ็ญไปเถิดอย่าได้ขาด อย่าประมาทเลย พระยันต์ทั้งสองนี้ผู้ใดนับถือบูชาไว้ มิรู้อดอดยากตกทุกข์ได้ยากเลย ให้บูชานับถือประดุจสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด
--------------------------
- คาถาบูชาราหู -
ตั้งนะโม ๓ จบ

“เนนทะมันเต อัสสะ กัสสะ 
มัสสะลิจิระสานัง มาบัง 
กะชะลินิสัวละ สัวติ มะวิ 
มะขะก๊ะ พินิรัมป๊ะ ถะสัวละสัวติ
ยะถาตัง ยะมะมะ ตังวะวะ 
มะมะตัง ตัง เสกา 
มะมะกาติ ยะนานิ” 
--------------------------
วันจันทร์ สวด ๒ คาบ 
อังคาร ๓ คาบ 
พุธ ๔ คาบ 
พฤหัสบดี ๕ คาบ 
ศุกร์ ๖ คาบ 
เสาร์ ๗ คาบ 
อาทิตย์ ๑ คาบ 
--------------------------
ธูปแปดดอก ดอกไม้ ขาวและ หรือ แดง 
หลังจากสวดเสร็จก็อธิฐานเอาตามปรารถนา....



วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

ดาวราหูจรกำลังเข้า!! เจาะตำนาน "พระราหู" นับเป็นองค์"พระโพธิสัตว์ในแดนอสูร" ได้รับการพยากรณ์ ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต!!!



พระราหูในพระพุทธศาสนา บุพกรรมของพระราหู

ในวรรณคดีทางพระพุทธศาสนาได้เล่าเรื่องพระราหู พระอาทิตย์และพระจันทร์ เกี่ยวกับบุพพกรรมที่ทั้งสามได้เคยสร้างร่วมกันมา จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวแห่งพระราหู พระอาทิตย์และพระจันทร์มาจนทุกวันนี้ เล่าครั้งหนึ่งว่าทั้งสามคือ พระอาทิตย์ พระจันทร์และพระราหูเกิดเป็นพี่น้องกันมีพระอาทิตย์เป็นพี่คนโต พระจันทร์เป็นคนรองพระราหูเป็นน้องเล็ก พระอาทิตย์และพระจันทร์นั้นนิสัยดีชอบทำบุญใส่บาตร เลือกเอาของดีถวายพระภิกษุสงฆ์เสมอๆ แต่พระราหูนั้นนิสัยออกเกเร เป็นนักเลง เจ้าโทสะ ไม่ค่อยประดิษฐ์ประดอยเหมือนพี่ๆเขา ครั้งหนึ่งพระอาทิตย์ชวนน้องทั้งสองใส่บาตร พระอาทิตย์เลือกใช้ขันทอง พระจันทร์เลือกใช้ขันเงิน แต่พระราหูนั้นเลือกเอากะลาเป็นขันใส่ข้าว รวมทั้งทัพพีตักข้าวด้วย


ด้วยกรรมดังนี้พระอาทิตย์ตั้งจิตอธิษฐานให้ตนเองเกิดเป็นสุริยเทพผู้มีรัศมีสองแสงเป็นสีทองส่องสว่างแก่มนุษย์ยามกลางวัน พระจันทร์ตั้งจิตขอไปเกิดเป็นจันทราเทพผู้มีรัศมีเย็นตา ให้ความสว่างแก่มนุษย์ยามกลางคืน ส่วนพระราหูนั้นต้องการมีเดชอำนาจเหนือพี่ทั้งสองด้วยอำนาจจิตดังกล่าวเมื่อสิ้นใจไปแล้วทำให้เกิดเป็นเทพอสูรนามว่า พระราหู มีร่างกายดำทะมึนมีอำนาจสามารถดับความสว่างของพระอาทิตย์และพระจันทร์ได้ เมื่อใดที่พระราหูเจอพระอาทิตย์พระจันทร์เป็นต้องเข้าไปอมบ้าง ไปหนีบไว้ที่รักแร้บ้าง ซ่อนไว้ใต้คางบ้างเป็นเช่นนี้เสมอไป และลักษณะการบดบังพระอาทิตย์และพระจันทร์ดังกล่าวนี้ ครูบาอาจารย์ชั้นต่อๆมาจึงนำมาวาดเป็นยันต์พระราหู หรือมาแกะลายพระราหูบังพระอาทิตย์ แต่ส่วนมากมักเลือกเอากิริยาที่พระราหูอมพระอาทิตย์พระจันทร์มากที่สุด



พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทรราหู


มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น พระราหูได้เคยเข้าจับพระอาทิตย์ บังเกิดเป็นสุริยคราส ครั้งนั้นเทพยดาทั้งหลายทูลขอให้พระพุทธองค์เข้าช่วยด้วยเป็นที่พึ่ง พระพุทธองค์ทรงกล่าวพระพุทธคาถาแก่พระราหู เมื่อพระราหูได้ฟังแล้วบังเกิดขนพองสยองเกล้ารีบคายพระอาทิตย์ออก เพราะศีรษะของตนดั่งว่าจะระเบิดออกมาเป็นเจ็ดเสี่ยง รีบกลับเข้าเมืองอสูรทันใด ไปเล่าให้เพื่อนอสูรของตนฟังว่า พระพุทธเจ้านี้มีฤทธิ์มากนักไม่อาจต้านทานฤทธานุภาพพระพุทธองค์ได้ ตามที่ปรากฎในพระไตรปิฎก ดังนี้

สุริยสูตรที่ ๑๐
[๒๔๖] ก็โดยสมัยนั้น สุริยเทวบุตร ถูกอสุรินทราหูเข้าจับแล้ว ครั้ง
นั้น สุริยเทวบุตร ระลึกถึงพระผู้มีพระภาค ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า
ข้าแต่พระพุทธเจ้า ผู้แกล้วกล้า ขอความนอบน้อมจงมีแด่
พระองค์ พระองค์เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ข้า-
พระองค์ถึงเฉพาะแล้วซึ่งฐานะอันคับขัน ขอพระองค์จงเป็น
ที่พึ่งแห่งข้าพระองค์นั้น ฯ
[๒๔๗] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงปรารภสุริยเทวบุตรได้ตรัสกะ-
*อสุรินทราหูด้วยพระคาถาว่า
สุริยเทวบุตร ถึงตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ว่าเป็นที่พึง ดูกร
ราหู ท่านจงปล่อยสุริยะ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้
อนุเคราะห์แก่โลก สุริยะใดเป็นผู้ส่องแสง กระทำความสว่าง
ในที่มืดมิด มีสัณฐานเป็นวงกลม มีเดชสูง ดูกรราหู ท่าน
อย่ากลืนกินสุริยะนั้น ผู้เที่ยวไปในอากาศ ดูกรราหู ท่าน
จงปล่อยสุริยะ ผู้เป็นบุตรของเรา ฯ
[๒๔๘] ลำดับนั้น อสุรินทราหู ปล่อยสุริยเทวบุตรแล้ว มีรูปอัน
กระหืดกระหอบ เข้าไปหาอสุรินทเวปจิตติถึงที่อยู่ ครั้นแล้วก็เป็นผู้เศร้าสลด เกิด
ขนพอง ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
[๒๔๙] อสุรินทเวปจิตติ ได้กล่าวกะอสุรินทราหู ผู้ยืนอยู่ ณ ที่
ควรส่วนข้างหนึ่ง ด้วยคาถาว่า
ดูกรราหู ทำไมหนอ ท่านจึงกระหืดกระหอบ ปล่อยพระ-
สุริยะเสีย ทำไมหนอ ท่านจึงมีรูปเศร้าสลด มายืนกลัวอยู่ ฯ
[๒๕๐] อสุรินทราหู กล่าวว่า
ข้าพเจ้าถูกขับด้วยคาถาของพระพุทธเจ้า ถ้าข้าพเจ้าไม่พึง
ปล่อยพระสุริยะ ศีรษะของข้าพเจ้าพึงแตกเจ็ดเสี่ยง มีชีวิต
อยู่ ก็ไม่พึงได้รับความสุข ฯ
จบ วรรคที่ ๑

ครั้นใกล้เวลาที่อสุรินทราหูเข้าเฝ้า พระผู้มีพระภาคก็เสด็จบรรทมในพระแท่นที่ประทับ ทรงทำปาฏิหาริย์นิรมิตพระกายให้ใหญ่กว่าอสุรินทราหูหลายเท่า พระรูปนี้จะปรากฏเฉพาะแต่อสุรินทราหูเห็นผู้เดียวเท่านั้น ครั้นอสุรินทราหูเข้าไปเฝ้า เห็นเข้าก็อัศจรรย์ใจมาก แม้แต่เพียงพระบาททั้ง ๒ ข้างที่ซ้อนกันอยู่ ก็ยังสูงและใหญ่กว่าอสุรินทราหูเสียอีก เมื่ออสุรินทราหูเข้าใกล้ได้ถวายอภิวาท แทนที่จะต้องก้มลงดูพระพุทธเจ้าดังที่คิดแต่แรกมากลับต้องแหงนหน้าชมพระพุทธลักษณะอันงดงาม ตั้งแต่พื้นพระบาทจนถึงพระพักตร์ ปรากฏว่าเป็นที่พอใจได้ความปลาบปลื้มที่ได้ชมพระรูปพระโฉมของพระพุทธเจ้าทั้งใหญ่ทั้งงามสมส่วนทุกประการ ก็กราบทูลสรรเสริญ



ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคจึงทรงรับสั่งปฏิสันถารให้ความชื่นบานแก่อสุรินทราหูยิ่งขึ้น แล้วตรัสว่า อสุรินทราหู! บุคคลทั้งหลายเมื่อได้ทราบข่าวเล่าลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ หากยังไม่ได้เห็น, ยังไม่พิจารณาให้ถ่องแท้แก่ใจตนแล้ว ไม่พึงติชมก่อน อสุรินทราหู, ท่านคงเข้าใจว่า ท่านมีร่างกายใหญ่กว่าเทพยดาและอสูรทั้งหลาย จริงอยู่บรรดาพวกอสูรทั้งหลายในอสูรพิภพนั้นมีร่างกายเล็กกว่าท่าน แต่ท่านคิดหรือเปล่าว่าในที่อื่นอาจมีผู้ที่มีร่างกายใหญ่กว่าท่าน เหมือนปลาใหญ่ในหนองคลองบึง มันอาจคิดว่าตัวมันโตกว่าปลาทั้งหลาย ไม่มีปลาตัวใดจะเสมอได้ เพราะมันยังไม่ได้ไปเห็นปลาในมหาสมุทร อสุรินทราหู! แม้ท่านเองก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้น


อสุรินทราหู, บรรดาพรหมทั้งหลายในพรหมโลกชั้นบนทั้งหมดล้วนมีร่างกายใหญ่กว่าท่าน ถ้าท่านมีความปรารถนาจะได้ดู, ได้ชม, พรหมเหล่านั้น ตถาคตรับรองว่าจะพาท่านไปดู ไปชมได้แม้ในขณะนี้ ครั้นอสุรินทราหูทูลขอประทานพระกรุณาให้พาไปชมพรหมทั้งหลายในพรหมโลก พระผู้มีพระภาคได้ทรงทำปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูไปยังพรหมโลกในทันใดนั้น


เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จขึ้นปรากฏพระกายในพรหมโลก บรรดามหาพรหมทั้งหลาย ก็พากันมาเฝ้าเป็นอันมาก บรรดามหาพรหมที่พากันมาเฝ้าเหล่านั้น ล้วนมีร่างกายใหญ่กว่าอสุรินทราหูตั้งร้อยเท่าพันเท่า แต่พระผู้มีพระภาคกลับมีพระกายปรากฏว่าใหญ่กว่ามหาพรหมเหล่านั้นทั้งหมด ส่วนอสุรินทราหูคงมีร่างกายเท่าเดิม มีความหวาดกลัวตัวสั่นเทา หลบอยู่เบื้องหลังพระผู้มีพระภาค ปรากฏเหมือนแมงมุมเกาะอยู่ที่ชายจีวรพระผู้มีพระภาคฉะนั้น


ท้าวมหาพรหมได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาพาเอาตัวอะไรขึ้นมาด้วยพระเจ้าข้า, พระศาสดาตรัสตอบว่า ผู้นี้คืออสุรินทราหู, เขาถือตัวว่าตัวมีร่างกายใหญ่ อยากจะเห็นผู้มีร่างกายใหญ่กว่า โดยคิดว่าในสกลโลกนี้ยังจะมีผู้ที่มีร่างกายใหญ่เท่าเขาอยู่บ้างหรือ ตถาคตจึงพาขึ้นมา ให้อสุรินทราหูได้เห็นประจักษ์ด้วยนัยน์ตาตนเอง


ท้าวมหาพรหมได้กราบทูล เป็นอย่างนั้นแหละพระเจ้าข้า, วิสัยคนที่มานะอันกระด้าง ย่อมถือตัวยกตนข่อผู้อื่น เหมือนคนทุคคตะเข็ญใจได้ทรัพย์เพียงบาทหนึ่ง ก็ถือตัวว่าเป็นคนมีทรัพย์ หรือเหมือนคนพาลมีความรู้น้อยก็ทนงตนว่าเป็นปราชญ์


ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จประทับอยู่ในพรหมโลกพอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็ตรัสอำลาท้าวมหาพรหม พาอสุรินทราหูกลับลงมายังพระเชตวันวิหาร ทรงทรมานให้อสุรินทราหูลดมานะทิฏฐิอันกระด้างลงได้ กลับมีใจเลื่อมใสในพระศาสดา ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสรณะ แล้วกราบทูลลากลับไปยังพิภพของตน.

ในครั้งนั้นพระพุทธองค์ยังได้กล่าวถึงบุพกรรมแต่หนหลังของพระราหูว่า เคยตั้งปณิธานไว้ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งการบำเพ็ญบารมีของพระราหูทุกภพชาติที่ผ่านมานั้นก็เพื่อพระโพธิญาณนี้และจะสำเร็จแน่นอนในอนาคตกาล พระราหูจะสำเร็จเป็นพระโพธิญาณ หรือ บรรลุเป็นอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้พระราหูปลาบปลื้ม พระราหูมีความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ยิ่งๆขึ้น และตั้งใจบำเพ็ญเพียรทางพระโพธิญาณให้มากยิ่งๆขึ้น ทั้งพระไตรปิฎกล่าวว่า พระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า พระนารทพุทธเจ้า นับเป็นองค์ที่ห้าถัดจากพระศรีอารยเมตไตรพุทธเจ้า จากคติดังกล่าวนี้จึงถือว่าพระราหูนั้นมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นหน่อเนื้อพระพุทธางกูรแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าเคารพกราบไหว้ของชาวพุทธเรา การกราบไหว้พระโพธิสัตว์นันเป็นคตินิยมอยู่แล้วของมหายาน แต่ฝ่ายหินยานหรือในบ้านเรานั่นรู้จัดเรื่องพระโพธิสัตว์น้อย พระโพธิสัตว์นั้นบางครั้งมีรูปกายสวยงาม บางครั้งในรูปกายน่ากลัว และสามารถบังเกิดในภพภูมิใดก็ได้ อย่างพระราหูเป็นพระโพธิสัตว์ที่รูปกายน่ากลัว และเป็นพระโพธิสัตว์ที่เกิดขึ้นในแดนอสูร ทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา ให้พรคนดี ย่ำยีคนชั่ว บำเพ็ญบารมีสร้างภพชาติเพื่อสืบพระพุทธวงศ์มิให้สิ้นสูญ โปรดสรรพสัตว์ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นมหาบารมีมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ สมควรที่จะได้รับการกราบไหว้บูชาเช่นเทพยเจ้าองค์อื่นๆ

นอกจานนี้หลายท่านคงไม่เคยทราบว่าคำกล่าวขึ้นต้นก่อนสวดมนต์บทใดๆ ก็ตาม คือ นะโมตัสสะ นั้นเป็นคำกล่าวนอบน้อมพระพุทธเจ้าที่เทพยดาหลายพระองค์ร่วมกันแต่งขึ้น จนกลายเป็นประโยค “นะโม ตัสสะ” ที่เราสวดกัน ในบทดังกล่าวพระราหูเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมรจนาบทคาถา “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหัตโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” โดย คำว่า


“นะโม” ผู้กล่าวคือ พญายักษ์สันตาคีรี


“ตัสสะ” ผู้กล่าวคือ องค์สุรินราหู


“ภะคะวะโต” ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้แก่ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปักษ์ และท้าวเวสสุวัณ


“อะระหัตโต” ผู้กล่าวคือ พระอินทร์ เป็นคำนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


“สัมมาสัมพุทธะสะ” ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาพรหมสหัมปติ



ทั้งหมดนี้ทวยเทพทั้งหลายทั้งหลายทั้งยักษ์ และเทวดาต่างกล่าวนอบน้อมพระพุทธองค์ในวันแรกที่ตรัสรู้ได้อนุตรธรรมคือพระนิพพนานธรรม ดังจะเห็นได้ว่าในบรรดาผู้กล่าวคำกล่าวนอบน้อมนั้นมีอสุรินทร์ราหูร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีพญายักษ์ ที่ชื่อสาตาคิรีอีกหนึ่ง และท้าวเวสสุวัณผู้เป็นจอมยักษ์อีกหนึ่ง ซึ่งท่านเหล่านี้ล้วทรงบุญญาธิการทั้งสิ้น ครูบาอาจารย์ ของผู้เขียนกล่าวผู้ที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยดีแล้ว และเคารพในคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีเทพเทวดาทั้งหลายเป็นอาทิหากทำการท่องคำว่า “นะโมตัสสะ” ด้วยความเคารพศรัทธาก็สวามารถกันภูตผีปีศาจได้ เพราะเป็นคำกล่าวของพระราหู มีบารมีธรรมแห่งพระรากูอยู่ ภูติผีปีศาจทั้งหลายย่อมเกรงกลัวพระราหูฉันใดผู้ทีมีความเคารพพระราหูย่อมได้บารมีข้อนี้ตามไปด้วย นอกจากนี้นะโมที่เราสวดนั้นยังมีเทพเทวาอีกหลายพระองค์จึงเป็นคำกล่าวที่ศักดิ์สิทธิ์มาก การท่องทุกครั้งหากได้ระลึกถึงเทพเทวาทั้งหลายนี้แล้วย่อมเป็นสิริมงคลสูงสุด


พระโพธิสัตว์ราหูเทพอสุรินทร์

ในบรรดาเทพนพเคราะห์ทั้ง 9 องค์นั้นมีเพียงพระราหูพระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นพระโพธิสัตว์และได้รับรับการพยากรณ์แล้ว แม้พระอาทิตย์และพระจันทร์ผู้มีบุญญาธิการอันสูงส่ง ก็มิได้เป็นพระบรมโพธิสัตว์ เช่น พระราหูและยังไปปรากฏเป็นคำพุทธพยากรณ์จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นจะมีเพียงอสูรเทพพระราหูเท่านั้นที่มีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์และได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นอน พระบารมีแห่งเทพอสุรินทร์ราหูจึงมีอยู่มากมายมหาศาลบุคคลผู้ที่จะได้รับพุทธพยากรณ์เช่นพระราหูนั้น ถือว่าได้บำเพ็ญบารมีเข้าสู่เส้นชัยแล้ว หมายความว่า บารมีที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลเบื้องหน้านั้นสำเร็จอย่างแน่นอน แสดงว่าบุญบารมีของพระราหูสามารถโปรดผู้ตกทุกข์ได้ยากให้ได้ดีมีสุข พ้นทุกข์พ้นภัย ด้วยอาศัยบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ญาณที่พระราหูได้บำเพ็ญเพียรมานับชาติไม่ถ้วน


การนับถือจึงมิได้หมายความว่าเรากำลังบูชาภูตผีปีศาจแต่อย่างใด แต่เรากำลังบูชาพระโพธิสัตว์ในรูปกายแห่งเทพอสูร อันเป็นคติสอนให้พิจารณาว่า อย่ามองที่รูปกายภายนอก แม้ว่ารูปกายแห่งพระราหูจะดูดุดันน่ากลัว แต่คุณธรรมภายในนั้นกลับตรงข้าม พระราหูเป็นเทพอสูรที่บำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุพระโพธิญาณมานับชาติไม่ถ้วน ภายในจิตใจนั้นมีแต่ความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ สิ่งเลวร้ายในชีวิตมนุษย์นั้นไซร์ย่อมเกิดจากผลกรรมเก่าและใหม่ที่ตนก่อไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมนั้นย่อมเป็นไปตามกลไกของมัน พระราหูเทพอสุรินทร์เป็นเทพยเจ้าผู้เป็นพยานแห่งการกระทำกรรมของมนุษย์ หาได้ให้ร้ายต่อใครไม่

ที่มา : สำนักข่าวทีนิวส์

กะลาตาเดียวพระราหูกบกินเดือน 
เนื้อกะลาตาเดียว ลงรักปิดทองร่องชาด 
- พระอาจารย์กฤษฎา -

"#ราหูกะลาตาเดียว" คืออีกหนึ่งสุดยอดเครื่องรางด้านหนุนดวง พลิกชะตา ของล้านนา #ราหูกะลาตาเดียวสร้างตามตำราพระราหูทรงฤทธิ์สืบทอดตามตำราโบราณ ครูบาอโนชัย ธรรมจินดามุนี ราชครูแห่งเมืองละกอน(เจ้าคณะเมืองรูปแรกของจังหวัดลำปาง) สังฆะยุคเก่า ผู้เป็นต้นตำรากะลาราหู อาจารย์ผู้ถ่ายทอดตำราวิธีการสร้างกะลาราหูให้กับครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้อันลือลั่น



......................
#สืบทอดตำราโบราณแห่งครูบาอโนชัยทุกประการ ของท่านดีหรือไม่นั้นเอาเป็นว่า ตำราท่านบอกให้เก็บในผอบแก้วผอบทองคำได้เลยทีเดียว 
......................
ผู้ใดบูชา "#กะลาราหูกบกินเดือน" ท่านว่า..จะได้เป็นใหญ่ เป็นพ่อค้าสำเภาเงิน มีอำนาจ เสน่ห์เมตตาบารมี มียศ มีศักดิ์ หนุนดวงเสริมชะตา เรียกทรัพย์ อำนาจราชศักดิ์ โชคลาภมหาศาลจะไหลหลั่งเข้ามามิขาดเลย 
......................
"#ราหูกะลาตาเดียว" พระอาจารย์กฤษฎาใช้เวลาในการจัดสร้างกะลาชุดนี้กว่า ๕ ปี จนสร้างออกมาให้ศิษย์ และผู้มีความเชื่อ/ ศรัทธา ได้บูชา ซึ่งต่างคนที่นำไปบูชาแล้วสัมฤทธิ์ผล ใครมีต่างหวงแหนเพราะดั่งมีแก้วสารพัดนึก.
......................
#เครื่องรางเข้มขลังครบสูตรแห่งตำราโบราณ ในการสร้างกะลาราหู นั้น ท่านจะทำในฤกษ์ยามราหูอมจันทร์ รวมถึงต้องแกะจากกะลาตาเดียวเท่านั้น!! จึงมีจำนวนจัดสร้างแต่ละครั้งไม่มาก เป็นของหายากที่สุด ผู้ที่บูชาไปเห็นผลและมีประสบการณ์ที่ดีกันมากมาย แล้วธุรกิจการงานดีขึ้นจริง...#กะลาตาเดียวพระราหูกบกินเดือน เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางชั้นสุงของล้านนาเลย เป็นที่หวงแหนของคนโบราณอย่างยิ่ง ตำรากล่าวไว้ว่าผู้ใดได้มีไว้บูชากับตนดุจดั่งมีดวงแก้วมณีโชติ แห่งพญาจักรวัตินั้นแล.....





#ของดีบารมีแสนโกฎิใครมีไว้เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน 

#สิปปะคุณมนต์ยันต์อักขระเครื่องรางล้านนา



ผู้ใดรับราหู บูชาราหู จะพลิกชะตาชีวิตจากที่ร้ายๆให้กลับกลายเป็นดีสุดๆ 
ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จะเพิ่มกำลังชีวิต หนุนดวงให้ร่ำรวย มีสง่าราศี 
จะเป็นเมตตามหานิยม ให้แก่ผู้มีไว้ในครอบครอง 
จะคุ้มครองดวงให้แคล้วคลาดจากสิ่งร้ายทั้งปวง รับพลังดี 
บันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้อย่างคิดไม่ถึง !!!

สำหรับท่านที่มีไว้ในครอบครองแล้ว ขอบอกจากใจว่า อย่าเก็บไว้
อย่างเดียว นำออกมาภาวนาจิต ขอในสิ่งที่ท่านหวัง ลองดู!
จะสัมฤทธิ์ในผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ!!!

เทพราหูหนุนดวงบันดาลโชคโภคทรัพย์
เทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตบูชาแล้วรวย
พระราหูมีพลังมากให้ผลมาก
ทรงอานุภาพสูงเด่น ช่วยให้เจ้าชะตารุ่งเรือง
กลับร้ายกลายเป็นดี
พระราหูช่วยให้เกิดลาภสักการะ
โภคผลทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง
ความก้าวหน้า ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง
การค้าขายดีมีเงินไหลมาเทมา

บูชาเทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิต
ทับอาทิตย์มหาจักรพระจันทร์เสี้ยวช้อนรับค้ำถ่อ
เปลี่ยนดวงร้ายให้เป็นดวงดี หนุนดวงดียิ่งดียิ่งๆขึ้นไป
กลับร้ายให้กลายเป็นดีแบบทวีคูณ
เปลี่ยนเคราะห์ ทุกข์โศกเป็นพรมหามงคล

พระราหูมีพลังมาก มีอานุภาพสูงเด่น
เป็นราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล
คุ้มดวงให้แคล้วคลาดปลอดภัย
พลิกดวงร้ายให้เป็นดวงดี
ดลบันดาลลาภสักการะ
ความมั่งคั่งร่ำรวย โภคทรัพย์ มหาสมบัติ
ใครับพระราหูไปแล้วถือถูกใช้ขึ้น
จะพลิกชีวิตเปลี่ยนโชคชะตา
เปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดี ดีแบบทวีคูณ 





พระราหูมีพลังมาก มีอานุภาพสูงเด่น เป็นราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล 
แม้พระอาทิตย์ที่ทรงฤทธิ์ ก็ยังต้องพ่ายแพ้พระราหู 
เทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตบูชาแล้วรวย!!! 
พระราหูมีพลังมากให้ผลมาก ทรงอานุภาพสูงเด่น ช่วยให้เจ้าชะตารุ่งเรือง 
กลับร้ายกลายเป็นดี พระราหูช่วยให้เกิดลาภสักการะ 
โภคผลทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า 
ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง การค้าขายดีมีเงินไหลมาเทมา 
บูชาเทพราหูคุ้มดวงพลิกชีวิตทับอาทิตย์มหาจักร 
พระจันทร์เสี้ยวช้อนรับค้ำถ่อ เปลี่ยนดวงร้ายให้เป็นดวงดี 
หนุนดวงดียิ่งดียิ่งๆขึ้นไป เปลี่ยนเคราะห์ ทุกข์โศกเป็นพร มหามงคล 
พระราหูอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ที่นั้นไร้เคราะห์ ไร้ทุกข์ภัย 
ขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆหมดสิ้น ราหูราชาแห่งดวงดาวทั้งจักรวาล 
แม้พระอาทิตย์ที่ทรงฤทธิ์ก็ยังต้องพ่ายแพ้พระราหู ... 
ในทางดาราศาสตร์ ราหู คือจุดตัดของวงโครจร ของพระจันทร์กับวงโครจรของโลก
 แต่ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูเป็นดาวบาปเคราะห์ 
ที่พระอิศวรทรงสร้างจาก หัวผีโขมดสิบสองหัว 
ให้ผลทางด้านลุ่มหลงมัวเมา ใจร้อน ออกแนวลุยๆ กล้าได้กล้าเสีย 
ไปได้ทุกที่ พระราหูมีฤทธิ์เยอะมาก ชนะดาวทุกดวง พระอาทิตย์ 

ที่ทรงฤทธิ์ก็ยังเสร็จพระราหู ราหูแพ้อยู่ดวงเดียวคือ-พระพฤหัส-